บทความ

ผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนต่อพืชและสัตว์

รูปภาพ
ผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนต่อพืชและสัตว์ รศ. ดร. สุบัณฑิต นิ่มรัตน์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา สวัสดีค่ะท่านผู้ฟัง กลับมาพบกับดิฉันอีกครั้งแล้วนะคะ ท่านผู้ฟังคิดเหมือนดิฉันไหมว่าสภาพอากาศทุกวันนี้เริ่มที่จะร้อนมากขึ้นทุก ขณะ เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องมาจากปัญหาโลกร้อนนั่นเอง ปัญหานี้เป็นปัญหาที่เราทุกคนจะละเลยไม่ได้แล้วเพราะมันเริ่มส่งผลกระทบที่ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และดิฉันได้เคยนำเสนอปัญหานี้ให้ท่านผู้ฟังได้รับฟังไปครั้งหนึ่งแล้วถึง สาเหตุและผลกระทบของปัญหาโลกร้อนไปบางส่วน และได้สัญญากับท่านผู้ฟังไว้ว่าหากมีโอกาสจะนำเสนอถึงผลกระทบของปัญหานี้ให้ ท่านผู้ฟังได้รับฟังกันต่อ ซึ่งในวันนี้ดิฉันก็ได้ไปรวบรวมข้อมูลมานำเสนอแก่ท่านผู้ฟังตามคำสัญญาค่ะ หากท่านผู้ฟังได้ติดตามเรื่องราวที่ดิฉันนำเสนอไปจะทราบดีว่าปัญหาโลกร้อน นั้นส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน ผลกระทบที่สำคัญต่อมนุษย์คือ การเกิดภัยธรรมชาติ สภาพอากาศแปรปรวนและอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งได้นำเสนอไปในครั้งก่อนแล้ว จากผลกระทบเหล่านี้ก็จะส่งผลกระทบตามมาอีกหลายประการ รวมถึงผลกระทบต่อพืชและสัตว์ เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากทุกสิ่งใ

มาดูผลผลกระทบจากปัญหาภาวะโลกร้อน

รูปภาพ
มาดูผลผลกระทบจากปัญหาภาวะโลกร้อน ผล กระทบที่เกิดขึ้นจากภัย "โลกร้อน" ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน อาทิ อากาศร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย หรือระดับน้ำทะเลโลกสูงขึ้นเท่านั้น แต่ปัจจุบันยังเป็นต้นเหตุของปรากฎการณ์แปลกๆ มากมาย ซึ่งเกี่ยวพันกับการหายสาบสูญของทะเลสาบ โรคภูมิแพ้โดยไม่ทราบสาเหตุ วิถีโคจรของดาวเทียมในอวกาศ ฯลฯ! สารภูมิแพ้แพร่ระบาด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เกิดปรากฎการณ์ประหลาดขึ้นทุกๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ นั่นคือ ประชาชนไอ จาม ป็นภูมิแพ้ และหอบหืดกันง่ายขึ้นและบ่อยขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ จากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปกับสภาพมลพิษในอากาศ เป็นสาเหตุสำคัญของอาการดังกล่าว อย่าง ไรก็ตาม มีงานวิจัยใหม่ๆ ชี้ให้เห็นว่า วิกฤตอุณหภูมิโลกร้อนขึ้นและมีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศมากขึ้น คือต้นเหตุทำให้พืชพรรณต่างๆ ผลิใบเร็วกว่าเดิม ขณะเดียวกันปริมาณละอองเกสรที่ฟุ้งกระจายไปตามอากาศก็มากขึ้นเช่นกัน คนที่เป็นภูมิแพ้หรือหอบหืดเมื่อสูดละอองเหล่านี้เข้าไปมากๆ อาการจึงกำเริบง่าย สัตว์อพยพไร้ที่อยู่ ผลกระทบจากปัญหาโลกร้อ

ภาวะโลกร้อนเกิดจากอะไร

รูปภาพ
ในระยะที่ผ่านมาประชาคม สศช.คงได้ทราบข่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์หลายสถานีว่า น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือกำลังละลาย บางประเทศในยุโรปมีอากาศร้อนจัด จนถึงขั้นทำให้คนเสียชีวิต หิมะที่เทือกเขาคิลิมันจาโรซึ่งถูกเรียกขานว่า “หลังคาแห่งกาฬทวีป”กำลังละลายและว่ากันว่าอาจจะหมดไปในปี 2020 ส่วนประเทศแถบเอเชีย เช่น บริเวณเกาะต่างๆของประเทศอินโดนีเซีย มีภาวะน้ำท่วมอย่างรุนแรง แม้ประเทศไทยเองก็ประสบกับภาวะภัยแล้ง และน้ำท่วมเช่นกัน คุณรู้หรือไม่ว่า...กำลังเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรา...และเราจะป้องกันหรือรับมือได้อย่างไร ปรากฏการณ์ความแปรปรวนอย่างนี้ ในทางวิทยาศาสตร์ระบุว่าสภาพเช่นนี้เป็น “ภาวะโลกร้อน” อันเป็นผลจากการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซค์และก๊าชอื่นๆที่มีคุณสมบัติดักจับความร้อนออกไปยังบรรยากาศของโลก ก๊าชเหล่านี้จะรวมตัวกันจนกลายเป็นผ้าห่มหนาๆดักจับความร้อนของดวงอาทิตย์และทำให้โลกมีอุณหภูมิร้อนขึ้นยิ่งก๊าชเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นความร้อนก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ก๊าชเหล่านี้เกิดขึ้นจากการเผาผลาญพลังงานฟอสซิล ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหรือถ่านหิน โดยเมื่อเราใช้พลังงานต่างๆ เช่าน การขับเคลื่อนรถยนต์ เท่ากับเป็นกา

กำเนิดปิโตรเลียม ?

รูปภาพ
นักโบราณคดีเชื่อว่าประมาณ 2,500 ปีก่อนคริสตกาล พวกชนเผ่าบาบิโลเนียน (Babylonian) เริ่มใช้น้ำมัน (ปิโตรเลียม) เป็นเชื้อเพลิงแทนไม้และเมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ชาวจีนเป็นชาติแรกที่ทำเหมืองถ่านหินและขุดเจาะบ่อก๊าซธรรมชาติลึกเป็นร้อย เมตรได้ก่อนใคร น้ำมันประกอบด้วยสารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดต่าง ๆ หลายชนิดมากมายจนมีคำพูดว่าไม่มีน้ำมันจากบ่อไหนเลยในโลกที่มีการผสมผสาน ส่วนประกอบได้คล้ายกัน แต่จะเห็นว่าส่วนประกอบกว้าง ๆ คล้ายกัน ซึ่งตรงกันข้ามกับก๊าซธรรมชาติที่ประกอบด้วยก๊าซที่สำคัญคือ มีเทน (Methane) เป็นหลักที่เหลือซึ่งมีปริมาณน้อยกว่าได้แก่ อีเทน (Ethane) โปรเพน (Propane) และบิวเทน (Buthane) ปิโตรเลียมจัดได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติที่ได้จากการสลายตัวของสิ่งมี ชีวิตทั้งพืชและสัตว์รวมกัน ความเป็นมาของอุตสาหกรรมน้ำมัน ? สถานี บริการน้ำมันต่าง ๆ ที่พบเห็นในปัจจุบันนี้ มี กำเนิดมาไม่ต่ำกว่า 90 ปี แล้ว โดยมีกำเนิดหลังจากที่ได้มีผู้ประดิษฐ์รถยนต์คันแรกขึ้นมา เมื่อประมาณปี 2443 โดยมีผู้ตั้งร้านค้าขายน้ำมันเพื่อเปิดบริการสำหรับเจ้าของรถ โดยกรรมวิธีแบบง่าย ๆ คือ เวลาเจ้

ถ่านหิน ?

รูปภาพ
ถ่านหิน เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญชนิดหนึ่งของโลก การพัฒนาอุตสาหกรรมในยุคแรกเริ่มเกิดขึ้นได้เพราะมนุษย์รู้จักการนำถ่านหิน มาใช้ในการผลิตไอน้ำเพื่อขับเคลื่อนเครื่องจักรต่างๆ จนถึงปัจจุบันถ่านหินยังคงเป็นแหล่งพลังงานที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก หากแต่ขณะนี้เริ่มมีการพัฒนาเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดขึ้นแล้ว ในหลายประเทศทั่วโลกเพื่อลดปริมาณการปลดปล่อยมลพิษจากกระบวนการเผาไหม้ ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการให้ความรู้แก่นักวิชาการ และผู้ประกอบธุรกิจพลังงานในประเทศไทย "บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม" (JGSEE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จึงได้จัดการบรรยายพิเศษเรื่อง Sustainable Coal Utilization (การใช้ถ่านหินเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) ขึ้น ณ โรงแรมเซนจูรี่ ปาร์ค เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รศ.ดร.บัณฑิต ฟุ้งธรรมสาร ผู้อำนวยการบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) เปิดเผยว่า ปัจจุบันทั่วโลกยังมีการใช้พลังงานจากถ่านหิน มากเป็นอันดับสองรองจากน้ำมัน โดยมีสัดส่วนการใช้อยู่ที่ 25% ของการใช้พลังงานทั้งหมด นอกจากนี้ ถ่านหินยังเป็นเชื้อเพลิงสำคัญที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า คือปร

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทางออกของวิกฤติพลังงาน ?

รูปภาพ
กระแสการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อแก้วิกฤติพลังงาน กำลังเป็นเรื่องที่มีคนพูดถึงกันหนาหูมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนเมื่อเร็วๆ นี้ 2 ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ตลอดจนกระทรวงพลังงาน ซึ่งมาร่วมรายการ “รู้ทัน...ประเทศไทย” ของ “เอเอสทีวี” ก็ออกมาย้ำชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็น และมั่นใจได้ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จะเป็นทางออกของวิกฤติพลังงาน ได้แบบอุ่นใจอย่างแน่นอน ดร.กอปร กฤตยากีรณ ที่ปรึกษา รมว.วิทยาศาสตร์แล้เทคโนโลยี และประธานคณะกรรมการศึกษาความเหมาะสม เพื่อเตรียมความพร้อมการก่อสร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย กล่าวถึงภาพลักษณ์ในเชิงอาวุธทำลายร้ายสูงของนิวเคลียร์ ซึ่งยังติดอยู่ในใจของคนไทยว่า แม้การทำระเบิดปรมาณู และการผลิตกระแสไฟฟ้าต่างใช้ธาตุกัมมันตภาพรังสีคือ “ยูเรเนียม” เป็นเชื้อเพลิงเช่นเดียวกันจริง ทว่าความจริงแล้วกลับมีความเข้มข้นของสารต่างกันมาก “การใช้ในเชิงพลังงานไม่ได้นำธาตุยูเรเนียมมาวางใกล้ๆ กันมาก จนทำให้เกิดการระเบิดได้ แต่เพื่อให้เกิดการแตกตัวของอนุภาคยูเรเนียม และคายความร้อนออกมาต้มน้ำให้เดือด และได้ไอน้ำไปปั่นกระแสไฟฟ้า ตามหลักการขอ

80 วิธีหยุดโลกร้อน

รูปภาพ
รายงานฉบับล่าสุดของคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศ หรือ ไอพีซีซี (Intergovernment Panel on Climate Change : IPCC) ซึ่งเป็นรายงานที่รวบรวมงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ 2,500 คน จากกว่า 30 ประเทศ และใช้เวลาในการวิจัยถึง 6 ปี ระบุไว้ว่า มีความเป็นไปได้อย่างน้อย 90% ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ และมนุษย์ถือได้ว่าเป็นตัวการสำคัญของปัญหาโลกร้อนในครั้งนี้ 80 วิธีหยุดโลกร้อนไม่ว่าใครก็สามารถช่วยลดความร้อนให้กับโลกได้ตั้ง 80 ช่องทาง... ประชาชนทั่วไป 1.ลด การใช้พลังงานในบ้านด้วยการปิดทีวี คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อไม่ได้ใช้งาน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้นับ 1 พันปอนด์ต่อปี 2.ลดการสูญเสีย พลังงานในโหมดสแตนด์บาย เครื่องเสียงระบบไฮไฟ โทรทัศน์ เครื่องบันทึกวิดีโอ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและอุปกรณ์พ่วงต่างๆ ที่ติดมาด้วยการดึงปลั๊กออก หรือใช้ปลั๊กเสียบพ่วงที่ตัดไฟด้วยตัวเอง 3.เปลี่ยน หลอดไฟ เป็นหลอดไฟประหยัดพลังงานแบบขดที่เรียกว่า Compact Fluorescent Lightbulb (CFL) เพราะจะกินไฟเพียง 1 ใน 4 ของหลอดไฟเดิม และมีอายุการใช้งานได้นานกว