บทความ

อากาศโลกเพี้ยนหนักหิมะตกในทะเลทรายซาฮารา กว่า 3 ครั้ง ในช่วง 40 ปี

รูปภาพ
😱อากาศโลกเพี้ยนหนัก! หิมะตกในทะเลทรายซาฮารา กว่า 3 ครั้ง ในช่วง 40 ปี เกิดปรากฏการณ์หาชมได้ยาก มีหิมะตกหนักในทะเลทรายซาฮาราอีกครั้ง เมื่อช่วงเช้าตรู่วันอาทิตย์ (7 ม.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 40 ปี ที่มีหิมะตกปกคลุมทะเลทรายขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ 🔜ปรากฏการณ์หิมะตกดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณเมืองอิน เซฟรา  เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศแอลจีเรีย ตั้งอยู่ในเทือกแอตลาส  ทางตอนเหนือของทะเลทราย ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 3,280 ฟุต ซึ่งสถานที่นี้ได้ชื่อว่าเป็น “ประตูสู่ทะเลทราย” หิมะที่ตกลงมานี้ปกคลุมพื้นที่บางส่วนหนาถึง 16 นิ้ว สร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก – หิมะตกครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ปี 1979 (มีหิมะปกคลุมขาวโพลนอยู่ราว 30 นาที) – หิมะตกครั้งที่สองเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ปี 2016 (มีหิมะปกคลุมขาวโพลนอยู่ราว 1 ชั่วโมง) – และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 (มีหิมะปกคลุมตั้งแต่ 7 โมง – 5 โมงเย็น)คาริม บูเชตาตา ช่างภาพและทีมงาน ที่มีโอกาสได้ถ่ายภาพเหตุการณ์ประหลาดนี้ได้ถึงสองครั้ง  – “ผมและทุกคนต่างตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นหิมะตกในทะเลทราย ซึ่

อนาคตที่มืดมนของคนรักกาแฟ

รูปภาพ
อนาคตที่มืดมนของคนรักกาแฟ งานวิจัยชิ้นล่าสุดจากทีมนักวิทยาศาสตร์แห่งสวนพฤกษศาสตร์คิว ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ พบข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เหล่าคนรักกาแฟอาจต้องเผชิญกับกาแฟที่มีรสชาติแย่ลง และมีราคาสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาโลกร้อนส่งผลต่อคุณภาพและทำให้พื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกกาแฟลดลง งานวิจัยชิ้นนี้ ระบุว่า การผลิตกาแฟในเอธิโอเปีย ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดกาแฟพันธุ์ อาราบิกาคุณภาพสูงของโลก และเป็นผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุดของทวีปแอฟริกา อาจได้รับความเสียหายหนักภายในช่วงหนึ่งร้อยปีข้างหน้า หากเราไม่ดำเนินการใด ๆ ในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญจากสวพฤกษศาสตร์คิวและทีมงาน พบว่า หากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 4 องศาเซลเซียสภายในช่วงสิ้นสุดศตวรรษนี้ ก็จะทำให้พื้นที่เพาะปลูกกาแฟคุณภาพเยี่ยมของเอธิโอเปียลดลง 60% จากพื้นที่ในปัจจุบัน ดร.แอรอน เดวีส์ นักวิจัยอาวุโสแห่งสวนพฤกษศาสตร์คิว บอกกับบีบีซีว่า "หากเรานิ่งเฉยไม่แก้ปัญหานี้ ผลผลิตกาแฟในเอธิโอเปียและทั่วโลกจะลดลง รสชาติของกาแฟที่ได้อาจแย่ลงและมีราคาแพงขึ้น" งานวิจัยชิ้นนี้สอดคล้องกับควา

Hampton Creek ทดลองผลิตเนื้อสัตว์โดยไม่ต้องมีการเลี้ยง

รูปภาพ
Hampton Creek ทดลองผลิตเนื้อสัตว์โดยไม่ต้องมีการเลี้ยง Hampton Creek บริษัท สตาร์ทอัพเตรียมพัฒนาเนื้อสัตว์ที่มาจากการปลูก ภายในห้องแลป คาดสำเร็จภายในปี 2018 บริษัท สตาร์ทอัพ ด้านอาหาร เปิดเผยว่า Hampton Creek มีแผนที่จะเพาะเนื้อสัตว์ขายส่งตามร้านค้าทั่วไปภายในปี 2018 เพื่อให้ได้เนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว เนื้อไก่ที่มีความสะอาด ตลอดจนอาหารทะเล ในอุตสาหกรรม สำหรับ เนื้อสัตว์จะถูกผลิตด้วยการปลูกแบบ in vitro meat โดยมาจากการทดลอง พัฒนาในห้องแลป วิทยาศาสตร์เพื่อให้ได้รสชาตที่มีความเหมือนจริงมากที่สุด ซึ่งโปรเจคต์นี้ต้องใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แผนงานของ Hampton Creek คือการเป็นส่วนหนึ่งในการปลุกเทรนด์ สร้างทางเลือกเนื้อสัตว์ที่มาจากเทคโนโลยีขั้นสูง ที่มาจากการเลียนแบบเนื้อสัตว์แบบดั้งเดิม และลดการเลี้ยงสัตว์ ฆ่าสัตว์ลง โดยเริ่มต้นจาก Beyond Meat ที่ทำมาจากโปรตีนถั่วลันเตา จากการประกาศดังกล่าวของ Hampton Creek ถือว่าเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ที่อยู่ในวงการอาหารเป็นอย่างดี เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และช่วงหลังเริ่มมีการรณรงค์ในเรื่อง

อาถรรพ์สามเหลี่ยมมาดากัสการ์

รูปภาพ
อาถรรพ์สามเหลี่ยมมาดากัสการ์ “ทะเลปิศาจ” อาณาเขตอาถรรพณ์ซึ่งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ใกล้ฝั่งเกาะมาดากัสการ์นี่เอง หากมองดูแผนที่ท่าน จะเห็นว่ามาดากัสการ์ เป็นเกาะใหญ่เบ้อเริ่มอยู่ใกล้ไปทางแผ่นดินใหญ่แอฟริกา ถัดไปทางทิศตะวันออกมีเกาะใหญ่ อีกเกาะหนึ่งคือเกาะ มอริเชียส ถัดมอริเชียสขึ้นไปทางเหนือมีเกาะซีเชลล์ทอดอยู่สง่าภาคภูมิ... บริเวณเกาะทั้งสามในมหาสมุทรอินเดียนี้เอง ที่มีเหตุการณ์ประหลาดๆเกิดขึ้นบ่อยจนน่านน้ำบริเวณนั้นได้รับนามว่า “ทะเลปิศาจ” ชื่อ “ทะเลปิศาจ” นี่ยังนับว่าเบาะๆนะครับ นักเขียนฝรั่งบางคนเรียกซะเข้าไส้ไปเลยว่า “นรกของคนถูกสาป-Limbo of the Damned” คู่กับ “Limbo of the Lost” อันหมายถึงบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาอาถรรพณ์ครับ เช่นเดียวกับบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ทะเลปิศาจแห่งมาดากัสการ์เป็นจุดที่เรือและเครื่องบินสูญหายไปโดยปราศจากร่องรอยหลายสิบลำ นับแต่ปี ค.ศ.1950 เป็นต้นมา ได้มีเรือหายไป ณ จุดนี้ถึง 46 ลำ ก่อนหน้านี้ ขึ้นไปก็มีเรือสูญหายอีกมาก บางครั้งหายไปหมดทั้งเรือและกะลาสี บางครั้งหายเฉพาะกะลาสี เหลือแต่เรือเปล่าๆ ฯลฯ จะขอคัดตอนสำคัญๆ ที่น่าเชื่อถือ เพราะผ่

โลกเปลี่ยนไปหิ้งน้ำแข็งหนา 1,000 ฟุตกำลังจะแยกตัวออกจากแอนตาร์กติกา!

รูปภาพ
โลกเปลี่ยนไป!! หิ้งน้ำแข็งหนา 1,000 ฟุตกำลังจะแยกตัวออกจากแอนตาร์กติกา! สภาพภูมิอากาศบนโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจนเรียกได้ว่าเข้าสู่สภาวะวิกฤติ เพราะแม้แต่หิ้งน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่เท่ากับรัฐเดลาแวร์ทั้งรัฐ ก็กำลังจะแตกตัวออกจากทวีปแอนตาร์กติกาในเร็ววันนี้ นักวิทยาศาสตร์รายงานว่าแผ่นน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของรัฐที่เล็กที่สุดในสหรัฐอเมริกา กำลังค่อยๆ แยกตัวออกจากทวีปน้ำแข็งแอนตาร์กติกา ซึ่งรอยแยกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ นี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์บางส่วนเชื่อว่ามันจะหลุดออกจากแอนตาร์กติกาภายในเวลาไม่กี่เดือน หิ้งน้ำแข็ง (ice shelf) นี้มีชื่อว่า Larsen C มันหนากว่า 1,100 ฟุต (335 เมตร) และมีพื้นที่กว้างถึง 5,180 ตารางกิโลเมตร ภาพจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่ารอยแยกระหว่างหิ้งน้ำแข็งและทวีปแอนตาร์กติกาเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2010 และแตกตัวอย่างรวดเร็วจนมีความยาวเพิ่มขึ้นประมาณ 29 กิโลเมตรในปี 2015 และในเดือนมีนาคมปี 2016 ก็ยาวขึ้นอีกอย่างน้อย 22 กิโลเมตร ในเดือนพฤศจิกายนปี 2016 ทีมสำรวจ Operation IceBridge จากนาซ่า ยืนยันผลการสำรวจว่ารอยแยกระหว่างหิ้งน้ำแข็ง Larsen C

พายุลึกลับกลางทะเล

รูปภาพ
พายุประหลาดลึกลับกลางทะเล ที่กำลังบ้าคลั่ง เรื่องราวและความแปลกประหลาดของท้องทะเลยังมีอีกมาก อย่างเรื่องราวของพายุประหลาด ที่จู่ ๆ ที่ก่อตัวแล้วหายไปอย่างลึกลับนั้นมีปรากฏอยู่มากมาย เรื่องราวเหล่านี้ ผู้ที่ชำนาญเฉพาะทางก็บอกกันไปต่าง ๆ นานา บ้างว่าเป็นการกระทำของมนุษย์ต่างดาว บ้างว่าเกิดการเหลื่อมของประตูมิติอย่างสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า บ้างว่าเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีคนในทวีปแอตแลนติสเป็นผู้ทำให้เกิด ซึ่งแต่ละเรื่องที่กล่าวก็เป็นไปได้ว่า ผู้ชำนาญทางด้านไหนจะเป็นผู้วิเคราะห์ ทีนี้มาดูตัวอย่างของพายุประหลาดที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เรื่องที่ว่านี้ถูกตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น เมื่อตีพิมพ์ครั้งแรกนั้นไม่เป็นที่โด่งดัง แต่ภายหลังมีผู้คนพบมากขึ้นและบ่อยขึ้น จึงมีการพูดถึงและนำมาอ้างอิงบ่อยครั้ง เรื่องแรกที่จะกล่าวถึงนี้เป็นเรื่องของกัปตันเรืออังกฤษ ที่บันทึกเรื่องราวไ้ว้ได้ในราวปี ค.ศ. 1945 เมื่อคราวโดนพายุใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นมาอย่างกระทันหัน ระหว่างจะเดินทางไปสก๊อตแลนด์ กัปตันโมฮาวีร์ วอสคัฟฟ์ โดยโดยสารเรือจากฝั่งอังกฤษไปยังหมู่เกาะสก๊อตแลนต์ ระหว่างที่จะไปนั้น ไม่เห็นว่ามันจะ

หลุมลึกลับแห่งเขาบาลดี้

รูปภาพ
สภาพแวดล้อมของธรรมชาติในชนบท Mount Baldy 's Mysterious Holes หลุมลึกลับแห่งเขาบาลดี้ Mount Baldy 's Mysterious Holes หรือที่แปลว่า ภูเขาหัวล้าน ที่แห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในมณฑลซานดิโอ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกามีความยาวประมาณ 12 ไมล์ เป็นที่ที่คนมันมาพักผ่อนหย่อนใจหรือเดินสำรวจ จนกระทั่งในปี 2013 ได้เกิดเรื่องประหาดขึ้น เมื่อ Nathan Woessner วัย 6 ขวบ กำลังเดินสำรวจอยู่ในบริเวณนี้ จู่ๆ ก็ได้เกิดหลุมทรายดูดขึ้น หนูน้อยรายนี้ถูกดูดลงไปใต้พื้นทรายลึกกว่า 3 เมตร เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงนำตัวหนูน้อยออกมาได้อย่างปลอดภัย เรื่องดังกล่าวสร้างความงุงงงสงสัยให้กับนักธรณีวิทยาเป็นอย่างมาก เพราะภูมิทัศน์ของเขาหัวล้านเป็นทราย ซึ่งไม่น่าจะสร้างอากาศจนเป็นเหตุให้เกิดหลุมยุบ หรือทรายดูดได้ แม้จะใช้เรด้าห์ตรวจจับก็ยังไม่พบช่องว่างที่จะทำให้เกิดหลุม แต่หลุมได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้รัฐบาลสั่งปิดปิดอุทยาน จนถึงวันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงสรุปไม่ได้ว่าหลุมยุบเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร