บทความ

หมู่บ้าน Oymyakon ในประเทศรัสเซีย -93.2 องศา นี่คือสถานที่ที่หนาวเหน็บที่สุดในโลก

รูปภาพ
คุณคิดว่า -93.2 องศานี่หนาวมากหรือไม...ขอบอกตรงๆเลยนะว่ามันหนาวสุดใจขาดดิ้นเลยล่ะครับ แม้แต่หายใจไอน้ำออกมาก็เป็นน้ำแข็งแล้ว อากาศหนาวสุดขั้วและมีสถานที่ๆอากาศหนาวนี้จริงๆอยู่บนโลกนี้และที่นั่นก็ยังมีคนอาศัยอยู่ด้วย....เดี๋ยวเรามาชมกันเลยดีกว่านะครับว่าที่นั่นคือที่ไหนและถ้าเป็นคุณจะอยู่ได้หรือไม่กับอากาศที่หนาวยะเยีอกสุดขั้วโลก หมู่บ้าน Oymyakon ในประเทศรัสเซีย -93.2 องศา นี่คือสถานที่ที่หนาวเหน็บที่สุดในโลก คุณอาจเคยได้ยินชื่อของหมู่บ้าน Oymyakon ในประเทศรัสเซีย ที่ถูกบันทึกเอาไว้ว่าเป็นหมู่บ้านที่มีสภาพอากาศหนาวเหน็บที่สุดบนโลกใบนี้ โดยที่นี่มีอุณหภูมิเฉลี่ยราว -50 องศาเซลเซียส แต่จากสถิติโลกที่เคยถูกบันทึกไว้ มันเคยมีอุณหภูมิที่ต่ำถึง -71.2 องศาเซลเซียส ที่เกิดขึ้นในปี 1924 หรือเกือบ 100 ปีมาแล้ว แต่หากเราไม่นับพื้นที่หมู่บ้านที่คนอาศัยอยู่ สถานที่ที่หนาวเหน็บที่สุดบนโลกใบนี้คือที่ใดกันแน่ จากข้อมูลดาวเทียม NASA Earth Observatory เปิดเผยว่า พื้นที่บริเวณสันเขาที่ราบสูงแอนตาร์กติกตะวันออกหรือ East Antarctic Plateau อาจมีอุณหภูมิลดต่ำลงไปถึง -93.2 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ในช่วงปีที่ผ่

ทำความรู้จักถ้ำยูโทรบา (Utroba Cave) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ถ้ำมดลูก"

รูปภาพ
ทำความรู้จักถ้ำยูโทรบา (Utroba Cave) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ถ้ำมดลูก" ในโลกเขาเรานั้นนอกจากความยิ่งใหญ่และน่าอัศจรรย์ที่มนุษย์ได้สร้างขึ้นมาแล้ว ความยิ่งใหญ่ของธรรมชาตินั้นก็สร้างความอัศจรรย์ให้กับมนุษย์ได้มากเช่นกัน ดั่งเช่นเรื่องราวที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับถ้ำ ยูโทรบา หรือ Utroba Cave ประเทศบัลแกเรีย ถ้ำยูโทรบา ถือเป็นถ้ำเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เมือง Kardzhali ประเทศบัลแกเรีย โดยเชื่อกันว่าถ้ำแห่งนี้เคยเป็นศาลเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์มาก่อน เนื่องจากมีแท่นบูชาสูง 1.3 เมตรตั้งอยู่ด้านใน ถ้ำแห่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า Womb Cave หรือถ้ำมดลูก เพราะอะไรถึงมีชื่อนี้ หลายๆ คนเห็นภาพของปากถ้ำแล้วก็คงจะหายสงสัยไปตามกันๆ เพราะบริเวณปากถ้ำนั้นมีลักษณะคล้ายกับอวัยวะเพศหญิงจริงๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองธรรมชาติไม่ได้ผ่านการตกแต่งจากฝีมือมนุษย์ และนอกจากนี้ถ้ำแห่งนี้ยังเป็นที่นิยมของคู่รักที่มักจะเดินทางมาขอบุตรกันที่ถ้ำแห่งนี้กันด้วย ถือเป็นภูมิประเทศที่ดูแปลกตาและเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจที่เรานำมาฝากทุกคนกันใ

ครั้งหนึ่งเมื่อเกือบ ๆ 2 พันล้านปีก่อน 1 วันบนโลกมีเพียง 19 ชั่วโมง

รูปภาพ
ข่าวนี้อาจจะเป็นที่มาของการกำเนิดมนุษย์และการพัฒนาของมนุษย์ที่เป็นไปอย่างรวดเร็วเพราะว่าครั้งหนึ่งเมื่อเกือบ ๆ 2 พันล้านปีก่อน 1 วันบนโลกมีเพียง 19 ชั่วโมงและเป็นอย่างงั้นอยู่อีกประมาณ 1 พันล้านปีซึ่งต่างกับเวลาปัจจุบันมากทุกวันนี้อย่างที่เราทราบ โลกหมุนรอบตัวเอง 1 ครั้ง = 1 วันที่มี 24 ชั่วโมง (ตัวเลขเป๊ะ ๆ คือ 23 ชั่วโมง 56 นาที และ 4.0916 วินาที) แต่นักวิทยาศาสตร์ได้ชี้ให้เห็นถึงหลักฐานที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือเมื่ออดีตอันไกลโพ้น โลกไม่ได้มี 24 ชั่วโมง แต่กลับเป็น 19 ชั่วโมง สำหรับข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์ได้ชี้แจงนี้มันคงจะไปขัดกับหลักการความเชื่อของพวกอนุรักษ์นิยมหรือพวกคลั่งศาสนาคลั่งพระเจ้าแน่นอนเพราะบุคคลเหล่านั้นเขาจะเชื่ออยู่อย่างเดียวว่าพระเจ้าสร้างพระเจ้าทำไม่มองเหตุผลอื่นๆเลย #NATURE ครั้งหนึ่งเมื่อเกือบ ๆ 2 พันล้านปีก่อน 1 วันบนโลกมีเพียง 19 ชั่วโมงและเป็นอย่างงั้นอยู่อีกประมาณ 1 พันล้านปี ถ้าเราคิดว่าทุกวันนี้เวลาไม่พอ ก็โชคดีแล้วที่เราไม่ได้เกิดเป็นสิ่งมีชีวิตโบราณ  ทุกวันนี้อย่างที่เราทราบ โลกหมุนรอบตัวเอง 1 ครั้ง = 1 วันที่มี 24 ชั่วโมง (ตัวเลขเป๊ะ ๆ คือ 23 ชั่วโมง 56

แม้จะมีหลักฐานแต่ก็มีคนไม่เชื่อ นักอุอุตุนิยมวิทยาถูกขู่ฆ่า หลังจากรายงานข่าวโลกร้อนจนเป็นPTSD ลาออก

รูปภาพ
แม้จะมีหลักฐานแต่ก็มีคนไม่เชื่อ  นักอุอุตุนิยมวิทยาถูกขู่ฆ่า หลังจากรายงานข่าวโลกร้อนจนเป็นPTSD ลาออก เรื่องนี้อาจจะมีเขาข้อมูลความจริงเพราะว่าพวกที่ต่อต้านและไม่เชื่อเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อนโดยเฉพาะพวกอนุรักษ์นิยมและพวกคลั่งศาสนาคลั่งพระเจ้า คนพวกนี้จะไม่เชื่อเด็ดขาดว่าสภาวะโลกร้อนอากาศแปรปรวนที่เกิดขึ้นมาจากอะไร...พวกนี้จะเชื่ออย่างเดียวว่าทุกสิ่งทุกอย่างพระเจ้าสร้างพระเจ้าทำให้เกิดมันก็เลยเป็นความขัดแย้งกันเองนั่นแหละครับ  แม้จะมีหลักฐานมากมายเกี่ยวกับโลกร้อน แต่ก็ยังมีคนไม่เชื่อและคิดว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเป็นทฤษฎีลวงโลก นักอุตุนิยมวิทยาของรัฐไอโอวาลาออกหลังได้รับอีเมลล์ถูกขู่ฆ่า เนื่องจากเขารายงานข้อมูลเกี่ยวกับภาวะโลกร้อน Chris Gloninger เป็นนักอุตุนิยวิทยาที่ทำงานให้กับสถานีข่าว 7 แห่งของ 5 รัฐในช่วง 18 ปีที่ผ่าน โดยให้ข้อมูลและรายงานถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศรวมถึงคาดการณ์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งทั้งหมดได้รับการสนับสนุนจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่แล้วกลับมีอีเมลล์หนึ่งส่งมาหาเขาที่เริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน 2022 ว่า “จะอ้วกและเบื่อหน่ายกับทฤษฎีสมคบคิดเสรีนิยมของคุณเกี่ยวกับสภ

รู้หรือไม่ อุกกาบาตก็คือดาวเคราะห์น้อยที่ร่วงลงมา

รูปภาพ
นี่เป็นคำถามที่คุณอาจจะคิดไม่ถึง  ว่าอุกกาบาตก็คือดาวเคราะห์น้อยที่ร่วงลงมาอวกาศ ใช่ไหมครับ บางทีเราก็คิดเองว่าอุกกาบาตก็คือก้อนหินจากอวกาศที่ตกลงมาแต่นักวิทยาศาสตร์เขาบอกว่าอุกกาบาตที่ตกลงมาก็คือดาวเคราะห์น้อยๆนั่นเอง รู้หรือไม่ อุกกาบาตก็คือดาวเคราะห์น้อยที่ร่วงลงมา วันที่ 30 มิถุนายนที่จะถึงนี้ คือ #วันดาวเคราะห์น้อยสากล เราเลยอยากจะพาทุกคนมารู้กับดาวเคราะห์น้อย วัตถุที่เหลือจากการก่อตัวของดาวเคราะห์ มันพยายามรวมตัวเป็นดาวเคราะห์แล้วแต่ไม่สำเร็จ  ดาวเคราะห์น้อยมีขนาดตั้งแต่ 1 - 1,000 กิโลเมตร ส่วนใหญ่มีรูปทรงไม่สมมาตรไม่เป็นทรงกลม เพราะดาวเคราะห์น้อยมีมวลน้อยจึงมีแรงโน้มถ่วงน้อยไม่สามารถเอาชนะแรงยึดเหนี่ยวระหว่างสสารที่เป็นเนื้อดาว จึงไม่มีรูปร่างเป็นทรงกลม สภาพของดาวเคราะห์น้อยไม่เคยเปลี่ยนนับตั้งแต่ระบบสุริยะกำเนิดขึ้นมา นักดาราศาสตร์จึงใช้ดาวเคราะห์น้อยในการศึกษาวิวัฒนาการของระบบสุริยะ  แต่เมื่อดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดเล็กกว่า 1 กิโลเมตร หรือที่เรียกว่า "สะเก็ดดาว" (Meteoroids) ตกลงสู่โลก เราจะเห็นว่ามันจะมีไฟติด มองเห็นเป็นหางยาว นั่นเราจะเรียกว่า "ดาวตก" หรือ

เอลนีโญเริ่มแล้วในมหาสมุทรแปซิฟิก! ทำให้โลกร้อนขึ้นจากที่ก็ร้อนอยู่แล้วจากภาวะโลกรวน และจะทำให้ปี 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดของโลก

รูปภาพ
เอลนีโญเริ่มแล้วในมหาสมุทรแปซิฟิก! ทำให้โลกร้อนขึ้นจากที่ก็ร้อนอยู่แล้วจากภาวะโลกรวน และจะทำให้ปี 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดของโลก  เอลนีโญเริ่มแล้วในมหาสมุทรแปซิฟิก! อาจทำให้โลกร้อนขึ้นจากที่ก็ร้อนอยู่แล้วเพราะภาวะโลกรวน และทำให้ปี 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดของโลก เอลนีโญ (El Niño) เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรสภาพอากาศเอนโซ่ (ENSO) ที่สลับกับ ลานีญา ทำให้ภูมิภาคทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลียแห้งแล้ง แต่กลับมาฝนตกหนักที่ทวีปอเมริกาใต้แทน โดยปกติแล้วปรากฏการณ์เอลนีโญจะเกิดขึ้นทุก ๆ 3-5 ปี แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยหรือน้อยกว่านั้น  ตอนนี้เอลนีโญได้เริ่มขึ้นแล้ว จนถึงปีหน้า และได้สร้างความกังวลให้นักวิทยาศาสตร์มากว่าจะทำให้อุณหภูมิโลกที่สูงจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง สูงขึ้นอีกเกินลิมิต 1.5 องศาเซลเซียสที่ตั้งกันไว้ เพราะเอลนีโญสามารถเพิ่มอุณหภูมิให้โลก 0.2 องศา  นักวิทยาศาสตร์ยังกังวลอีกว่าปรากฎการณ์เอลนีโญ่ที่เกิดปีนี้จะทำให้ปี  2024 อุณหภูมิสูงขึ้นทุบสถิติ Adam Scaife จากกรมอุตุของสหราชฮาณาจักรเผยว่า “สถิติใหม่ในปีหน้าจะเกิดขึ้นขึ้นอยู่กับว่าปีนี้เอลนีโญ่รุนแรงแค่ไหน ถ้ารุนแรงมากในช

มัลดีฟส์เมืองที่กำลังจมจะจมน้ำหากโลกร้อนเกิน 2 องศา ระดับน้ำจะสูง 1.5 องศาถึง 1 เมตร ความเสี่ยงประเทศจมน้ำจึงมีมากขึ้น

รูปภาพ
มัลดีฟส์เมืองที่กำลังจมจะจมน้ำหาก โลกร้อนเกิน 2 องศา ระดับน้ำจะสูง 1.5 องศาถึง 1 เมตร ความเสี่ยงประเทศจมน้ำจึงมีมากขึ้น มัลดีฟส์เป็นเกาะที่เกิดจากแนวปะการัง ทั้งประเทศจึงต่ำเตี้ยติดทะเล เมื่อโลกร้อนรุนแรง ผลกระทบจึงเกิดกับประเทศเล็กๆ ใจกลางมหาสมุทร  อันดับแรกที่กลัวกันหนักหนาคือน้ำแข็งละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น  หากโลกร้อนเกิน 2 องศา ระดับน้ำจะสูงกว่าที่ 1.5 องศาถึง 1 เมตร ความเสี่ยงต่อประเทศจมน้ำจึงมีมากขึ้น อีกอย่างที่เริ่มเห็นผลคือแผ่นดินร้อนจัด ลมจากทะเลพัดเข้าแผ่นดินรุนแรง  เมื่ออินเดียกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แถวบ้านเราร้อนจนเหงื่อไหลย้อย ลมจากมหาสมุทรอินเดียจึงพัดแรงต่อเนื่อง จากมัลดีฟส์มุ่งหน้าสู่ไทยในบางฤดูกาล เช่น ฤดูนี้ สิ่งที่มาพร้อมกับลมแรงต่อเนื่องคือการกัดเซาะชายฝั่ง การแก้ปัญหาต้องใช้หลายวิธีการ เช่น การสร้างคันกันคลื่นในทะเล การเติมทรายในบางจุด ปัญหาสุดท้ายคือน้ำทะเลร้อน ปะการังฟอกขาว  โชคดีที่มัลดีฟส์อยู่กลางมหาสมุทร น้ำลึกรอบด้าน การเกิดปะการังฟอกขาวจึงต่างกันเมืองไทย โดยเฉพาะในอ่าวไทยที่น้ำตื้นกว่าเยอะและเกิดปะการังฟอกขาวแบบซ้ำซาก แต่อย่าคิดว่าที่นี่จะรอดพ้นตลอดไป ใน