บทความ

พลังงานแสงอาทิตย์พลังงานทางเลือกใหม่

รูปภาพ
พลังงานแสงอาทิตย์ดูจะได้รับการกล่าวขวัญถึงมากที่สุดว่า จะเป็นความหวังอันสูงส่งของมนุษย์ที่จะช่วยแก้ปัญหาพลังงานขาดแคลนได้อย่างแท้จริง ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของธรรมชาติ โดยความเป็นจริงแล้วแหล่งพลังงานทุกชนิดที่กล่าวไปแล้วยกเว้นชนิดเดียวก็คือ พลังงานจากกระแสน้ำขึ้นน้ำลงล้วนแต่เกี่ยวกันไม่โดยตรงก็โดยทางอ้อมกับพลังงานดวงอาทิตย์ทั้งสิ้น พลังงานดวงอาทิตย์เป็นพลังงานที่เกิดจากกระบวนการนิวเคลียร์แบบที่เรียกกันว่า นิวเคลียร์ฟิวชั่น กระบวนการเกิดพลังงานบนดวงอาทิตย์เป็นผลจากการรวมตัวของอะตอมไฮโดรเจนเป็นอะตอมฮีเลี่ยม แล้วมีมวลส่วนหนึ่งของอะตอมไฮโดรเจนหายไป มวลส่วนที่หายไปนี้เองที่เปลี่ยนไปเป็นพลังงานในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ถูกส่งออกไปรอบดวงอาทิตย์ แล้วก็มีส่วนหนึ่งส่วนน้อยเท่านั้นที่เดินทางมาถึงโลก พลังงานแสงอาทิตย์ที่ผิวดวงอาทิตย์ พื้นที่ 1 ตารางหลา มีค่าถึงประมาณ 65,000 แรงม้า แต่ที่ผิวโลกบนพื้นที่ 1 ตารางหลา เท่ากันนั้นมีพลังงานแสงอาทิตย์เดินทางมาถึงเพียงประมาณ 1 1/3 แรงม้า หรือ 1 กิโลวัตต์เท่านั้น แต่ปริมาณพลังงานแสงอาทิตย์บนผิวโลกที่ดูมีค่าเพียงน้อยนิดนี้ เมื่อคิ

ทะเลอารัลทะเลที่กำลังจะสูญหาย

รูปภาพ
ทะเลอารัล (ภาษาคาซัค: Арал Теңізі, Aral Tengizi; ภาษาอุซเบก: Orol dengizi; ภาษารัสเซีย: Аральскοе мοре; ภาษาทาจิก/ภาษาเปอร์เซีย: Daryocha-i Khorazm, Lake Khwarazm) เป็นทะเลปิดที่อยู่ในเอเชียกลาง อยู่ระหว่างประเทศคาซัคสถานกับสาธารณรัฐคาราคัลปัคสถานซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของประเทศอุซเบกิสถาน ปัจจุบันปริมาณน้ำในทะเลลดลงมากจนทะเลถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ทะเลอารัลเหนือ ทะเลอารัลใต้ส่วนตะวันออกและทะเลอารัลใต้ส่วนตะวันตก ครั้งหนึ่งทะเลอารัลมีพื้นที่ 68,000 ตารางกิโลเมตร และเป็นทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก แต่ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2503 ทะเลอารัลก็ลดขนาดลงเรื่อย ๆ เพราะแม่น้ำอามูดาร์ยาและแม่น้ำเซียร์ดาร์ยาที่นำน้ำมาสู่ทะเลโดนเปลี่ยนเส้นทางเพราะโครงการชลประทานของสหภาพโซเวียต ในปี พ.ศ. 2547 พื้นที่ทะเลลดลงเหลือร้อยละ 25 ของขนาดเดิม และมีค่าความเค็มมากกว่าเดิมถึง 5 เท่าซึ่งทำให้พืชและสัตว์ที่เคยอาศัยอยู่ตายเสียส่วนใหญ่ ในปี พ.ศ. 2550 พื้นที่ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 10 ของขนาดเดิม และแยกตัวออกเป็นทะเลสาบสามส่วน ซึ่งสองในสามนั้นเค็มเกินไปที่ปลาจะอาศัยอยู่ได้ อุตสาหกรรมการประมง

มาช่วยลดโลกร้อน ด้วยการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายดีกว่า

รูปภาพ
จากเหตุการณ์ภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ทำให้หลายประเทศทั่วโลกตระหนักถึงมาตรการในการช่วยลดอุณหภูมิความร้อน และควบคุมปริมาณของก๊าซเรือนกระจกให้ลดลง ซึ่ง เรื่องนี้บางประเทศในแถบเอเชียก็เริ่มจะตื่นตัว ด้วยการรณรงค์ให้ลูกจ้างหรือพนักงานในบริษัทต่าง ๆ ทิ้งสูทไว้ที่บ้าน แล้วหันมาสวมใส่เสื้อผ้าที่เบาสบายหรือเสื้อยืดแทนในช่วงหน้าร้อนนี้ เพื่อเป็นอีกแนวทางในการใช้เครื่องปรับอากาศในตัวอาคารให้ลดน้อยลง จากนโยนายดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการเปิดเครื่องปรับอากาศในออฟฟิศต่าง ๆ นั้น เฉลี่ยแล้วกินพลังงานไปถึง 30% - 50% ของการใช้พลังงานทั้งหมด ส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลของหลายประเทศต่างรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ถึงการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก หรือ Greenhouse Gas ที่ถูกปล่อยออกมา โดยทางแก้อีกหนึ่งวิธีที่พอจะช่วยได้คือ การเปิดเครื่องปรับอากาศในออฟฟิศไม่ต่ำกว่าระดับ 26- 28 องศาเซลเซียส ส่วนประเทศในพื้นที่ยุโรปตะวันออก ก็ได้วอนบรรดานายจ้างอนุญาตให้พนักงานเลิกใส่ถุงน่องยาวและผูกเนคไท แล้วหันมาแต่งกายชุดทำงานอย่างสบาย ๆ จากชุดทำงานที่เป็นทางการ ตัวอย่าง เช่น อนุญาตให้สตรีไม่จำเป็นต้องสวมถุงน่องยาว และผู้ช

15 วิธีง่ายๆหยุดโลกร้อน

รูปภาพ
1. วิธีเซฟค่าไฟในบ้านที่ฮิตฮอตที่สุดคือ เปลี่ยนหลอดไฟใหม่เป็นแบบประหยัด (หลอดตะเกียบ) ประหยัดไฟได้มากกว่าหลอดไฟธรรมดาถึง 3 – 5 เท่า แล้วยังใช้งานได้นานกว่าอีกต่างหาก 2. หมั่นทำความสะอาดหลอดไฟที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มแสงสว่างโดยไม่ต้องใช้พลังงานมากขึ้น และควรทำอย่างน้อย 4 ครั้งต่อปีนะคะ 3. เปิดหน้าต่างรับลมแทนการเปิดแอร์วิธีนี้ง่ายและคนไทยคุ้นเคยกันดีค่ะ แถมลมธรรมชาติยังปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศด้วยนะ (จริงไหมต้องสังเกตค่ะ) 4. ปิดคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ด้วยปุ่ม Off เท่านั้นที่เราต้องการ เพราะปุ่ม Stand by Power จะกินไฟในบ้านแบบไม่รู้ตัว 75 % (โอ้โห) 5. ตู้เย็นเปิดแล้วต้องปิดให้สนิท อย่าเปิดตู้เย็นบ่อย และอย่านำของร้อนเข้าแช่ในตู้เย็น เพราะจะทำให้ตู้เย็นทำงานเพิ่มขึ้น และกินไฟมากขึ้นตามไปด้วย 6. จากที่เคยซักผ้าทีละน้อยๆ และซักบ่อย เปลี่ยนมารวบรวมให้ได้กองโตพอสมควรก่อนค่อยซักทีเดียว อ้อ! แล้วไม่ต้องอบผ้าให้กินไฟและทำลายสิ่งแวดล้อมหรอกค่ะ บ้านเราแดดแรงดีอยู่แล้ว 7. ถึงจะเป็นยุคแห่งเทคโนโลยี แต่การจัดบ้านใหม่ให

ผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนต่อพืชและสัตว์

รูปภาพ
ผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนต่อพืชและสัตว์ รศ. ดร. สุบัณฑิต นิ่มรัตน์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา สวัสดีค่ะท่านผู้ฟัง กลับมาพบกับดิฉันอีกครั้งแล้วนะคะ ท่านผู้ฟังคิดเหมือนดิฉันไหมว่าสภาพอากาศทุกวันนี้เริ่มที่จะร้อนมากขึ้นทุก ขณะ เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องมาจากปัญหาโลกร้อนนั่นเอง ปัญหานี้เป็นปัญหาที่เราทุกคนจะละเลยไม่ได้แล้วเพราะมันเริ่มส่งผลกระทบที่ รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และดิฉันได้เคยนำเสนอปัญหานี้ให้ท่านผู้ฟังได้รับฟังไปครั้งหนึ่งแล้วถึง สาเหตุและผลกระทบของปัญหาโลกร้อนไปบางส่วน และได้สัญญากับท่านผู้ฟังไว้ว่าหากมีโอกาสจะนำเสนอถึงผลกระทบของปัญหานี้ให้ ท่านผู้ฟังได้รับฟังกันต่อ ซึ่งในวันนี้ดิฉันก็ได้ไปรวบรวมข้อมูลมานำเสนอแก่ท่านผู้ฟังตามคำสัญญาค่ะ หากท่านผู้ฟังได้ติดตามเรื่องราวที่ดิฉันนำเสนอไปจะทราบดีว่าปัญหาโลกร้อน นั้นส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน ผลกระทบที่สำคัญต่อมนุษย์คือ การเกิดภัยธรรมชาติ สภาพอากาศแปรปรวนและอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งได้นำเสนอไปในครั้งก่อนแล้ว จากผลกระทบเหล่านี้ก็จะส่งผลกระทบตามมาอีกหลายประการ รวมถึงผลกระทบต่อพืชและสัตว์ เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากทุกสิ่งใ

มาดูผลผลกระทบจากปัญหาภาวะโลกร้อน

รูปภาพ
มาดูผลผลกระทบจากปัญหาภาวะโลกร้อน ผล กระทบที่เกิดขึ้นจากภัย "โลกร้อน" ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน อาทิ อากาศร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกละลาย หรือระดับน้ำทะเลโลกสูงขึ้นเท่านั้น แต่ปัจจุบันยังเป็นต้นเหตุของปรากฎการณ์แปลกๆ มากมาย ซึ่งเกี่ยวพันกับการหายสาบสูญของทะเลสาบ โรคภูมิแพ้โดยไม่ทราบสาเหตุ วิถีโคจรของดาวเทียมในอวกาศ ฯลฯ! สารภูมิแพ้แพร่ระบาด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เกิดปรากฎการณ์ประหลาดขึ้นทุกๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ นั่นคือ ประชาชนไอ จาม ป็นภูมิแพ้ และหอบหืดกันง่ายขึ้นและบ่อยขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ จากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปกับสภาพมลพิษในอากาศ เป็นสาเหตุสำคัญของอาการดังกล่าว อย่าง ไรก็ตาม มีงานวิจัยใหม่ๆ ชี้ให้เห็นว่า วิกฤตอุณหภูมิโลกร้อนขึ้นและมีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศมากขึ้น คือต้นเหตุทำให้พืชพรรณต่างๆ ผลิใบเร็วกว่าเดิม ขณะเดียวกันปริมาณละอองเกสรที่ฟุ้งกระจายไปตามอากาศก็มากขึ้นเช่นกัน คนที่เป็นภูมิแพ้หรือหอบหืดเมื่อสูดละอองเหล่านี้เข้าไปมากๆ อาการจึงกำเริบง่าย สัตว์อพยพไร้ที่อยู่ ผลกระทบจากปัญหาโลกร้อ

ภาวะโลกร้อนเกิดจากอะไร

รูปภาพ
ในระยะที่ผ่านมาประชาคม สศช.คงได้ทราบข่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์หลายสถานีว่า น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือกำลังละลาย บางประเทศในยุโรปมีอากาศร้อนจัด จนถึงขั้นทำให้คนเสียชีวิต หิมะที่เทือกเขาคิลิมันจาโรซึ่งถูกเรียกขานว่า “หลังคาแห่งกาฬทวีป”กำลังละลายและว่ากันว่าอาจจะหมดไปในปี 2020 ส่วนประเทศแถบเอเชีย เช่น บริเวณเกาะต่างๆของประเทศอินโดนีเซีย มีภาวะน้ำท่วมอย่างรุนแรง แม้ประเทศไทยเองก็ประสบกับภาวะภัยแล้ง และน้ำท่วมเช่นกัน คุณรู้หรือไม่ว่า...กำลังเกิดอะไรขึ้นกับโลกของเรา...และเราจะป้องกันหรือรับมือได้อย่างไร ปรากฏการณ์ความแปรปรวนอย่างนี้ ในทางวิทยาศาสตร์ระบุว่าสภาพเช่นนี้เป็น “ภาวะโลกร้อน” อันเป็นผลจากการปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซค์และก๊าชอื่นๆที่มีคุณสมบัติดักจับความร้อนออกไปยังบรรยากาศของโลก ก๊าชเหล่านี้จะรวมตัวกันจนกลายเป็นผ้าห่มหนาๆดักจับความร้อนของดวงอาทิตย์และทำให้โลกมีอุณหภูมิร้อนขึ้นยิ่งก๊าชเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นความร้อนก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ก๊าชเหล่านี้เกิดขึ้นจากการเผาผลาญพลังงานฟอสซิล ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหรือถ่านหิน โดยเมื่อเราใช้พลังงานต่างๆ เช่าน การขับเคลื่อนรถยนต์ เท่ากับเป็นกา