เตรียมตัวเตรียมใจ กันได้แล้ว ‘มนุษย์’ เหลือเวลาไม่ถึงครึ่ง เตรียม ‘สูญพันธุ์’ ในอีก 250 ล้านปี
เตรียมตัวเตรียมใจ กันได้แล้ว ‘มนุษย์’ เหลือเวลาไม่ถึงครึ่ง เตรียม ‘สูญพันธุ์’ ในอีก 250 ล้านปี
ถ้าจะพูดถึง 250 ปีข้างหน้าเนี่ยมันก็ไม่ไกลเท่าไหร่นะครับ รับรองได้ว่ามนุษย์สูญพันธุ์แน่ จาก แหล่งข่าวและนักวิจัยวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเตือนแล้วว่ามนุษย์มีสิทธิ์สูญพันธุ์ก่อนหน้าหรือว่าภายหลังอีกไม่ช้าไม่นาน ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเริ่มขึ้น ภาวะการสูญพันธุ์เริ่มค่อยๆเป็น ค่อยๆไปแล้วมันก็จะไปจบสิ้น
โลกมนุษย์ก็จะไม่มีสิ่งมีชีวิตอีกต่อไป
แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้เพราะพระเจ้าหาตัวตนไม่เจอ...สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆอะไรก็ช่วยไม่ได้เพราะว่ามันคือสิ่งสมมุติที่มนุษย์สร้างขึ้น
สุดท้ายวาระสุดท้ายก็จะเกิดจากมนุษย์ที่ทำลายมนุษย์ด้วยกันเองจนสูญพันธุ์หรือไม่ก็ธรรมชาติโรคระบาดแน่นอนครับ
‘มนุษย์’ เหลือเวลาไม่ถึงครึ่ง เตรียม ‘สูญพันธุ์’ ในอีก 250 ล้านปี
นักวิทยาศาสตร์เผยเวลาของ “มนุษย์” อีกเพียง 250 ล้านปีเท่านั้น หลังแบบจำลองใหม่เผยให้เห็นว่าในอนาคตแผ่นดินทั้งหมดจะชนกันเป็นทวีปขนาดใหญ่ทวีปเดียว ที่มีอากาศร้อน และแห้งแล้งจนทำให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม “สูญพันธุ์”
ผ่านมาแล้ว 250 ล้านปี นับจากที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมวิวัฒนาการจากสัตว์เลื้อยคลาน จนกลายเป็นกลุ่มสัตว์ที่ยึดครองโลกในปัจจุบัน แทนที่ “ไดโนเสาร์” ที่สูญพันธุ์ไปเมื่อราว 66 ล้านปีก่อน ซึ่งการศึกษาครั้งใหม่พบว่ามนุษย์ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอาจมีเวลาเหลืออีกเพียง 250 ล้านปีเท่านั้น เพราะโลกอาจจะร้อนเกินไปที่จะอยู่อาศัย
การศึกษาของนักวิทยาศาสตร์หลากหลายเชื้อชาติที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Geoscience เมื่อเดือนก.ย.66 ที่ผ่านมา ด้วยการจำลองลักษณะของโลกในอนาคตด้วยคอมพิวเตอร์ พร้อมคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของทวีป และสภาพอากาศ พบว่า ในอีก 250 ล้านปีข้างหน้า ทวีปต่างๆ จะเคลื่อนตัวเข้าหากันกลายเป็นทวีปใหญ่ทวีปเดียว ตั้งอยู่บนพื้นที่เขตร้อนในแนวเส้นศูนย์สูตร เรียกว่า “แพนเจียอัลติมา” (Pangea Ultima)
นักวิจัย กล่าวว่า แบบจำลองใหม่แสดงให้เห็นว่า แพนเจียอัลติมาเกิดจากการเคลื่อนที่ชนกันของทวีปต่างๆ ส่งผลให้มีภูเขาไฟเกิดขึ้นมากมาย ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาจำนวนมากต่อเนื่องกันหลายพันปี เกิดการสะสมของก๊าซเรือนกระจก และความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงขึ้นในชั้นบรรยากาศ จนทำให้ลักษณะภูมิประเทศ และภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
ประกอบกับพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากพลังงานที่ปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์จะเพิ่มขึ้น 1% ในทุกๆ 110 ล้านปี
นำไปสู่จุดพลิกผันของสภาพภูมิอากาศ มีแนวโน้มว่าสภาพอากาศในมหาทวีปนี้ “ไม่เอื้ออำนวยต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม” เป็นเหตุให้เกิด “การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่” ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบนโลก รวมไปถึงมนุษย์ด้วย
หาก “แพนเจียอัลติมา” เป็นเหมือนทวีปใหญ่ก่อนหน้านี้ ก็จะกลายเป็นภูเขาไฟที่เต็มไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แบบจำลองที่พบ เนื่องมาจากการเคลื่อนตัวของหินหลอมเหลวที่อยู่ลึกลงไปในโลก ภูเขาไฟจึงอาจปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาลออกมาเป็นเวลาหลายพันปี ซึ่งทำให้เกิดการระเบิดของก๊าซเรือนกระจกซึ่งจะทำให้อุณหภูมิพุ่งสูงขึ้น
แบบจำลองของการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปทั่วทั้งแพนเจียอัลติมาในเวลาเพียงแค่ปีเดียว โดย อเล็กซ์ ฟรานสเวิร์ธ นักอุตุนิยมวิทยา และนักสร้างแบบจำลองภูมิอากาศบรรพกาล จากมหาวิทยาลัยบริสตอล หนึ่งในผู้ทำวิจัยในครั้งนี้ทวีตข้อความผ่านบัญชีส่วนตัวว่า
“การเกิดมหาทวีปแพนเจียอัลติมาในอีก 250 ล้านปี จะส่งผลให้เกิดอากาศที่ร้อนจัด อาจนำไปสู่การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ”
ฟรานสเวิร์ธ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตที่ยิ่งใหญ่จากการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ในยุคครีเทเชียส–พาลีโอจีน (K/Pg) สามารถอาศัยอยู่ในสภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมได้หลากหลาย”
การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ หรือ Mass Extinction ในยุคครีเทเชียส–พาลีโอจีน ซึ่งเป็นการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ ครั้งที่ 5 และเป็นครั้งล่าสุดบนโลกใบนี้ เกิดขึ้นจากการที่อุกกาบาตพุ่งชนโลกจนทำให้ไดโนเสาร์ที่ไม่ใช่นกทั้งหมดสูญพันธุ์ เมื่อประมาณ 66 ล้านปีก่อน ซึ่งในขณะนั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยังเป็นสัตว์ตัวเล็กๆ อยู่โดยปรากฏขึ้นบนโลกเมื่อประมาณ 170-225 ล้านปีก่อน ก่อนที่บรรพบุรุษของมนุษย์จะวิวัฒนาการตามมาภายหลัง