‘หายนะที่ไร้ความสุข’ วัยรุ่นสหรัฐฯ พาสุนัขว่ายหนีน้ำท่วมครั้งใหญ่ เพื่อรอความช่วยเหลือบนหลังคาบ้าน


‘หายนะที่ไร้ความสุข’ วัยรุ่นสหรัฐฯ พาสุนัขว่ายหนีน้ำท่วมครั้งใหญ่ เพื่อรอความช่วยเหลือบนหลังคาบ้าน

การเฝ้ารอความช่วยเหลือบนหลังคาบ้าน ท่ามกลางน้ำท่วมขังที่ไม่รู้ว่าจะสูงขึ้นไปอีกเท่าไหร่ นับเป็นความทรมานใจที่ไม่อาจเรียกว่าเป็น ‘ความสุข’ ได้เลยแม้แต่น้อย และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สหรัฐฯ เมื่อวัยรุ่นอายุ 17 ปี ต้องว่ายน้ำปีนหลังคาบ้านพร้อมสุนัข สัตว์เลี้ยงคู่ใจ เพื่อเฝ้ารอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐฯ

วัยรุ่นรายนี้มีชื่อว่า โคลอี้ อดัมส์ (Chloe Adams) เธอตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า มีน้ำเอ่อล้นออกมาจากท่อระบายน้ำในห้องน้ำ แล้วห้องครัวรวมถึงรอบๆ บ้านของเธอก็มีน้ำผุดออกมาตามกระเบื้องด้วย ซึ่งโคลอี้อาศัยอยู่กับคุณปู่คุณย่าที่รัฐเคนทักกี และน้องหมาที่มีชื่อว่า แซนดี้ (Sandy) ซึ่งเธอเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ 

แล้วเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุน้ำท่วม เนื่องด้วยฝนตกหนักหลายแห่ง ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย และประชาชนอีกกว่าร้อยรายที่สูญเสียที่พักอาศัยไป

คุณปู่คุณย่าของโคลอี้ อยู่ห่างจากบ้านเพียงเล็กน้อย แต่พอน้ำท่วมไหลมาแรง พวกเขาก็ถูกพัดออกไป ทั้งคู่พยายามตะโกนบอกโคลอี้ให้อยู่ในบ้านเพื่อรอความช่วยเหลือ แต่พอเธอพยายามโทรหาสายด่วนก็ไม่มีการตอบรับ เพราะคู่สายเต็ม ขณะที่น้ำก็ท่วมหนักขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงตัดสินใจว่า ต้องออกจากบ้านถึงจะรอดชีวิตได้

โคลอี้ตั้งเป้าว่าจะว่ายน้ำไปบ้านคุณลุง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ครอบครัวไปเฝ้ารอความช่วยเหลือ พลางเล่าว่า “ฉันลองวางแซนดี้ลงบนน้ำเพื่อดูว่า มันว่ายน้ำได้ไหม แต่มันว่ายไม่ได้ ฉันเลยอุ้มมันออกมา แล้วเดินลุยน้ำที่ท่วมถึงเอวไปหาอะไรสักอย่างที่จะพามันลอยไปกับน้ำได้”

หลังหาภาชนะใส่น้องหมาให้ลอยน้ำได้อยู่สักพัก เธอก็เจอลิ้นชักพลาสติกที่ขนาดพอเหมาะ โคลอี้วางแซนดี้ลงในนั้น แล้วนำลิ้นชักไปวางต่อบนเบาะของโซฟา เพื่อให้ลอยน้ำไปได้ เธอแหวกว่ายในน้ำที่เย็นจัด จนกระทั่งว่ายไปถึงหลังคาของอาคารเก็บของที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างเดียวที่ยังไม่จมน้ำ ทั้งคู่เฝ้ารอความช่วยเหลืออยู่กว่า 5 ชั่วโมง กว่าญาติๆ ของเธอจะพายเรือคายัคมาช่วยเธอได้ 

หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์นั้นมา เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันขอส่งกำลังใจให้ทุกคนที่สูญเสียและทนทุกข์มากกว่าที่ฉันเผชิญในหายนะอันน่าสยดสยองนี้” 

แพทริเซีย โคลอมโบ (Patricia Colombo) อีกหนึ่งผู้ประสบภัยให้สัมภาษณ์ถึงเหตุน้ำท่วมใหญ่นี้ว่า “ผู้เสียหายจำนวนมากไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาจากเหตุการณ์นี้ได้ เพราะว่าบ้านของพวกเขาจมอยู่ใต้น้ำ พวกเขาสูญเสียทุกสิ่ง”

อย่างไรก็ดี ย้อนกลับไปหนึ่งวันก่อนเกิดเหตุ สำนักพยากรณ์อากาศแห่งชาติ สหรัฐฯ แถลงว่า มีความเสี่ยงเล็กน้อยถึงปานกลางที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันทั่วทั้งภูมิภาค นับเป็นการประเมินความรุนแรงของสภาพอากาศที่ต่ำเกินไป และหลังจากเกิดเหตุ โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ 

ได้ประกาศภัยพิบัติของรัฐบาลกลางเพื่อนำเงินบรรเทาทุกข์ไปยังรัฐเคนทักกี ขณะที่ผู้ว่าการรัฐเคนทักกีกล่าวว่า อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะตามหาผู้สูญหายได้ครบทุกคน

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เมฆสีมุก เมฆสารพัดสีปรากฏการณ์เมฆแปลกๆที่หาดูได้ยากมาก

Troll A นอร์เวย์ แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก...

อารยธรรมต่างดาวอาจตรวจจับสัญญาณโทรศัพท์มือถือของเราได้