การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ IPCC เตือน วิกฤตโลกรวนเข้าใกล้หายนะ

การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ IPCC เตือน วิกฤตโลกรวนเข้าใกล้หายนะ ต้องเร่งแก้ไขตอนนี้ก่อนสายเกินไป 

Now or never!รายงานจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ IPCC เตือน วิกฤตโลกรวนเข้าใกล้หายนะ ต้องเร่งแก้ไขตอนนี้ก่อนสายเกินไป วอนเร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเร็วที่สุด สู่เป้าคาร์บอนศูนย์ในปี 2050 และต้องมีการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงาน อุตสาหกรรม ยานพาหนะ และการบริโภคอย่างเร่งด่วน 


ปัจจุบันอุณหภูมิโลกได้ร้อนขึ้นแล้วเฉลี่ย 1.1 องศาเซลเซียส หากเปรียบเทียบจากอุณหภูมิเฉลี่ยช่วงปี 1850 - 1900 ซึ่งเป็นผลมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมหาศาลจากกิจกรรมต่างๆของเรา โดยทั่วโลกหวังที่จะควบคุมไม่ให้โลกร้อนเกิน 1.5 - 2 องศาเซลเซียส ซึ่งหากไปถึงตัวเลขดังกล่าว เราอาจเผชิญวิกฤตสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง แต่ดูเหมือนว่าการล่าช้าในลงมือแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะทำให้เราเข้าใกล้หายนะไปทุกที และแทบที่จะเป็นไปไม่ได้ที่จะยับยั้งไม่ให้โลกร้อนเกิน 1.5 องศา 

ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์เผยในรายงาน IPCC ว่า โลกอาจร้อนขึ้นไปแตะ 3.2 องศาเซลเซียสภายในศตวรรษนี้ ซึ่งอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นขนาดนี้ จะทำให้โลกของเราเผชิญคลื่นความร้อน พายุรุนแรง การขาดแคลนน้ำ และภัยพิบัติอื่นๆแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตามก็ได้เผยว่า โลกยังมีโอกาสในการหลีกเลี่ยงหายนะที่เลวร้ายที่สุดจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง แต่ต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้



ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วน และฟื้นฟูธรรมชาติ อีกทั้งยังอาจจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศ รวมถึงปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆที่เรามีอยู่แล้วอย่างเร่งด่วน 

ในการหลีกเลี่ยงหายนะ รายงานเผยว่า เราต้องร่วมมือกันไม่ให้โลกร้อนเกิน 1.5 องศาเซลเซียส โดยนักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกควรถึงจุดพีคในปี 2025 หรือ 3 ปีข้างหน้า และลดลงอย่างรวดเร็วสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050 และต้องมีการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงาน อุตสาหกรรม ยานพาหนะ และการบริโภคอย่างเร่งด่วน รวมถึงการออกแบบเมืองใหม่สำหรับระบบยานพาหนะในเมือง

"รัฐบาลบางประเทศ และผู้นำธุรกิจพูดอย่างหนึ่ง แต่ทำอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งพวกเขากำลังโกหก และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะเลวร้าย" Antonio Guterres เลขาธิการสหประชาชาติเผย 

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า เราจำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในศตวรรษนี้ เพื่อจำกัดไม่ให้โลกร้อนขึ้นในภายภาคหน้า ซึ่งสิ่งสำคัญคือการยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล มุ่งหน้าสู่พลังงานสะอาด นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไลฟ์สไตล์ และการบริโภค ก็จำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลง 

วิกฤตสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หมายถึงโลกที่จะไม่เหมือนเดิม ทั้งเรื่องสภาพอากาศ ความร้อน ความแห้งแล้ง ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น พายุฝน ไฟป่า และอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งมีชีวิตบนโลก ซึ่งทุกภาคส่วนเป็นต้องมีการลดก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งปรับตัว วางแผนรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

See what three degrees of global warming looks like | The Economist

If global temperatures rise three degrees Celsius above pre-industrial levels, the results would be catastrophic. It’s an entirely plausible scenario, and this film shows you what it would look like.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ไขปริศนาวงกลมครอปเซอร์เคิล Crop Circles

มาทำความรู้จักกับ งู Green Mamba

เกาะงูนรก Ilha da Queimada Grandeเกาะมรณะแห่งบราซิลที่ทุกตารางนิ้วเต็มไปด้วยงู